การอุดหลอดเลือด (Embolization) คืออะไร ?
การอุดหลอดเลือด (Embolization) คือ การฉีดสารอุดกั้นหลอดเลือด (Embolic materials) ผ่านสายสวนหลอดเลือด (Catheter) ไปยังตำแหน่งหลอดเลือดที่มีความผิดปกติ เพื่อกำจัดหรือลดปริมาณเลือดไหลเวียนที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งความผิดปกตินั้นอาจเกิดจาก ภาวะเลือดออก (Bleeding), ก้อนมะเร็ง (Tumor), หลอดเลือดโป่งพอง (Aneurysm), หลอดเลือดต่อกันผิดปกติ (Arteriovenous malformation / fistula) เป็นต้น
ทำไมฉันต้องได้รับการอุดหลอดเลือด
แพทย์จะพิจารณาส่งคนไข้มารับการรักษาโดยวิธีอุดหลอดเลือดเมื่อพบว่าท่านมีความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น
ภาวะเลือดออก (Bleeding): เลือดออกทางเดินอาหาร (Gastrointestinal bleeding), เลือดออกภายในทั้งจากอุบัติเหตุ และไม่ใช่จากอุบัติเหตุ (Internal bleeding)
ก้อนมะเร็ง (Tumor): เพื่อเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ลดโอกาสเสียเลือดปริมาณมากระหว่างผ่าตัด (Pre operative angioembolization), เพื่อทำให้ก้อนเนื้องอกฝ่อ หรือตายลง
หลอดเลือดโป่งพอง (Aneurysm)
หลอดเลือดต่อกันผิดปกติ (Arteriovenous malformation / fistula)
ฉันต้องเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนรับการอุดหลอดเลือด
ก่อนเข้ารับการรักษาโดยวิธีอุดหลอดเลือด คนไข้จำเป็นต้องพบแพทย์ (Clinician) เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่แน่ชัดก่อน ว่าความผิดปกติของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นคืออะไร และมีข้อบ่งชี้หรือความจำเป็นหรือไม่ในการรักษาโดยวิธีอุดหลอดเลือด
บางกรณี คนไข้อาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมโดยภาพถ่ายทางรังสีหลอดเลือด เช่น อัลตราซาวด์ (Doppler ultrasonography), เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT angiography) หรือเอกซ์เรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI angiography)
หลังจากได้รับการวินิจฉัย และพิจารณาถึงข้อบ่งชี้ในการรักษาที่ชัดเจน ท่านจะได้รับนัดหมายให้พบแพทย์รังสีร่วมรักษา (Interventional radiologist) เพื่อให้ข้อมูลถึง ข้อบ่งชี้ ความจำเป็น ความเสี่ยง และขั้นตอนการรักษาโดยวิธีอุดหลอดเลือด
หลังจากท่านเข้าใจถึงขั้นตอน และความเสี่ยงของการทำหัตถการแล้ว แพทย์จะให้ท่านลงนามในเอกสารยินยอมให้แพทย์ทำหัตถการ (Consent form)
แพทย์จะกำหนดวันทำหัตถการ และแจ้งให้ท่านทราบ พร้อมออกใบนัด
เจ้าหน้าที่พยาบาล จะอธิบายขั้นตอนการทำเรื่องนอนโรงพยาบาล (Admission) ให้ท่านทราบ โดยทั่วไปจัดนัดมานอนโรงพยาบาล 1 วัน ก่อนวันที่นัดทำหัตถการ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย และตรวจผลเลือดว่าไม่มีข้อห้ามในการทำหัตถการ เช่น เลือดแข็งตัวผิดปกติ หรือเกร็ดเลือดต่ำ
ขั้นตอนการอุดหลอดเลือด
1. นอนโรงพยาบาล 1 วัน ก่อนทำหัตถการ เพื่อตรวจสภาพร่างกาย และตรวจเลือด (CBC, Coagulogram)
2. งดน้ำ งดอาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนทำหัตถการ
3. แพทย์อาจพิจารณา เปิดเส้นเลือดดำ (Peripheral IV access) เพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ก่อนและระหว่างทำหัตถการ
4. เจ้าหน้าที่จะนำท่านมายังห้องผ่าตัดเพื่อทำหัตถการ ที่ตึก 72 ปีชั้น 2 โดยภายในห้องผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะนำท่านขึ้นเตียงหัตถการ และจัดท่าทางท่านให้เหมาะสมที่สุดในการตัดชิ้นเนื้อ
5. แพทย์รังสีร่วมรักษา (Interventional radiologist) จะใส่สายสวนหลอดเลือดเพื่อทำการฉีดสีหลอดเลือด (Angiography) โดยอาจพิจารณาใส่สายสวนหลอดเลือดผ่านทางบริเวณขาหนีบ (Femoral access) หรือทางข้อมือ (Radial access) ขึ้นกับความเหมาะสมของหัตถการ และขนาดหลอดเลือดของคนไข้
6. หลังจากแพทย์ยืนยันตำแหน่งหลอดเลือดที่ผิดปกติแล้ว จะทำการฉีดสารอุดกั้นหลอดเลือด (Embolic materials) ผ่านสายสวนหลอดเลือดขนาดเล็ก เพื่อกำจัดหรือลดปริมาณเลือดไหลเวียนที่บริเวณดังกล่าว
7. จากนั้นแพทย์จะนำสายสวนหลอดเลือดออกจากร่างกายคนไข้ และทำการกดห้ามเลือดบริเวณที่ใส่สายสวนหลอดเลือด และปิดแผล
หมายเหตุ: เทคนิกการห้ามเลือดจะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ใส่สายสวนหลอดเลือด (Access site)
กรณีใส่สายสวนหลอดเลือดทางขาหนีบ (Femoral access): แพทย์จะห้ามเลือดโดยกดห้ามเลือดบริเวณขาหนีบนานประมาณ 15นาที หลังจากเลือดหยุดดี แพทยจะทำความสะอาดปิดแผล และให้ท่านนอนเหยียดขาข้างที่ทำหัตถการนาน 8 ชั่วโมง (Absolute bed rest) เพื่อป้องกันเลือดออก โดยห้ามเดินหรือนั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
กรณีใส่สายสวนหลอดเลือดทางข้อมือ (Radial access): แพทย์จะห้ามเลือดโดยพันอุปกรณ์ห้ามเลือด (Hemostatic bandage) นานอย่างน้อย 30 นาที จนกว่าเลือดจะหยุดดี หลังจากนั้นจะทำความสะอาดแผลและปิดพลาสเตอร์กันน้ำ ท่านสามารถเดิน หรือนั่งทานอาหารได้ตามปกติ
ภาพแสดงก้อนเนื้องอกที่อุ้งเชิงกรานข้างซ้าย คนไข้ถูกส่งมาอุดหลอดเลือดก้อนเนื้องอกก่อนทำการผ่าตัด
ภาพฉีดสีหลอดเลือด แสดงให้เห็นว่ามีหลอดเลือดผิดปกติไปเลี้ยงก้อนเนื้องอก
(ในวงกลมสีเขียว)
ภาพฉีดสีหลังจากเสร็จสิ้นการอุดหลอดเลือด จะเห็นว่าปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนเนื้องอดลดลงอย่างมาก (ในวงกลมสีเขียว)
ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ห้อเลือด (Ecchymosis), รอยฟกช้ำ (Bruise) บริเวณที่ใส่สายสวนหลอดเลือด
อวัยวะที่เกี่ยวข้องอาจขาดเลือด ทำให้เกิดอาการปวดได้