การใส่สายระบายถุงน้ำดี Cholecystostomy

การใส่สายระบายถุงน้ำดี (Cholecystostomy) คืออะไร ?

การใส่สายระบายถุงน้ำดี (Cholecystostomy) คือการระบายน้ำดี (Bile) ออกจากถุงน้ำดี (Gallbladder) โดยตรง ทำในคนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นถุงน้ำดีอักเสบ (Cholecystitis) เพื่อเอาน้ำดีที่คั่งค้างในถุงน้ำดีที่อักเสบออก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ถุงน้ำดีอักเสบมักเกิดจากมีนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstone) หลุดไปอุดตันท่อทางเดินน้ำดี แต่ในบางกรณีก็อาจพบโรคถุงน้ำดีอักเสบได้ในคนที่ไม่มีนิ่วในถุงน้ำดีมาก่อน โดยเฉพาะคนไข้ที่ป่วยหนัก นอนโรงพยาบาลเป็นเวลานานๆ

ภาพวาดแสดงนิ่วในถุงน้ำดีที่สามารถหลุดออกมาอุดตันท่อน้ำดีได้

ภาพแสดงนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstone)

ทำไมฉันต้องได้รับการใส่สายระบายถุงน้ำดี

เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้มีภาวะถุงน้ำดีอักเสบ (Cholecystitis) ที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ แพทย์จะพิจารณาส่งคนไข้มาทำการรักษาโดยวิธีใส่สายระบายถุงน้ำดี (Cholecystostomy) ร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด ซึ่งคนไข้มักมีอาการปวดท้องด้านขวาบน มีไข้สูง คลื่นไส้ โดยหลังใส่สายระบายถุงน้ำดีคนไข้จะมีสายระบายโผล่ออกมาทางผนังหน้าท้อง และต้องใส่สายระบายน้ำดีคาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ แพทย์จึงพิจารณาว่าสามารถเอาสายออกได้หรือไม่ 

ฉันต้องเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนใส่สายระบายถุงน้ำดี

ขั้นตอนการใส่สายระบายถุงน้ำดี

ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

*คำแนะนำในการดูแลแผล และปฏิบัติตัวหลังใส่สายระบายถุงน้ำด

จะเอาสายระบายถุงน้ำดีออกได้เมื่อไร ?

โดยทั่วไปจะต้องใส่สายระบายถุงน้ำดีนานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันถุงน้ำดีรั่วเข้าช่องท้อง หลังจากนั้นแพทย์จะพิจารณาถึงความจำเป็นในการคาสายไว้ หากแพทย์พิจารณาว่าคนไข้สามารถเข้ารับการผ่าตัดเผื่อเอาถุงน้ำดีออกได้ (Cholecystectomy) แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดและเอาสายระบายออก

แต่หากแพทย์พิจารณาว่าคนไข้ไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะรับการผ่าตัด (Unfit for surgery) ร่วมกับการมีนิ่วในถุงน้ำดี จะถือว่ามีความจำเป็นที่ต้องคาสายระบายน้ำดีไว้ตลอดชีวิต เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของถุงน้ำดีอักเสบ โดยแพทย์จะนัดมาเปลี่ยนสายระบายทุกๆ 3-4 เดือน